ปัญหาผมร่วง ผมบาง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง การดูแลเส้นผมที่ไม่เหมาะสม หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ และหนึ่งในวิธีการรักษาที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาผมร่วงให้กลับมามีผมหนา ดกดำอีกครั้งคือ PRP ผม (Platelet-Rich Plasma) หรือการฉีดพลาสมาที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม
แต่หลายคนยังคงสงสัยว่า PRP จริง ๆ แล้วได้ผลจริงไหม? PRP ทำบ่อยแค่ไหน? แล้วมีผลข้างเคียงหรือไม่? Dr.Orn Clinic : Medical Hair เราได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว ไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
PRP (Platelet Rich Plasma) คือ พลาสมาที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้นสูงกว่าปกติ ซึ่งเกล็ดเลือดเหล่านี้มีสารที่เรียกว่า Growth Factors ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเกิดของรากผม เมื่อนำไปฉีดบนหนังศีรษะแล้วจะส่งเสริมการงอกใหม่ของเส้นผมและทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นค่ะ
กระบวนการ PRP ผม เริ่มต้นจากการเจาะเลือดของคนไข้บริเวณข้อพับแขนประมาณ 10-20 cc จากนั้นนำเลือดนั้นไปปั่นในเครื่องหมุนเหวี่ยง (Centrifuge) ขั้นตอนนี้จะแยกเลือดออกเป็นชั้น ๆ โดยเราจะนำส่วนที่เป็นพลาสมา มาฉีดกลับเข้าไปบนหนังศีรษะหลังทำจึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้น และไม่ทิ้งรอยแผล
การทำ BPA ผม (Blood Platelet Activation) เป็นการใช้เลือดของผู้เข้ารับบริการมาผ่านกระบวนการคัดแยกเกล็ดเลือดเข้มข้นที่มีคุณสมบัติซ่อมแซมเซลล์ เพื่อนำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะที่มีปัญหาเพื่อบำรุงรากผม ลดผมร่วง ลดการอักเสบบริเวณหนังศีรษะ มีความแตกต่างจาก PRP ปกติตรงเครื่องที่ใช้ในการแยกชั้นเลือด จำนวนรอบปั่นเลือด การเก็บ และวิธีการฉีดลงหนังศีรษะ จะได้ปริมาณเกล็ดเลือดที่เข้มข้นสูง ทำให้ไม่จำเป็นต้องมาทำบ่อย สำหรับความถี่ที่แนะนำคือควรทำ BPA ทุก 1-3 เดือน ติดต่อกัน 3-5 ครั้ง ร่วมกับใช้วิตามินบำรุงผมแบบทาและแบบรับประทาน เพื่อช่วยเสริมผลลัพธ์หลังทำ
ทางเลือกในการรักษา BPA (Blood Platelet Activation) | นัดปรึกษา / BOOK CONSULT |
PRP ผมเป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพื่อแก้ปัญหาผมร่วงและผมบาง ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างจากวิธีการอื่น ๆ ซึ่งการฉีด PRP ผมไม่จำเป็นต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็นหรือการพักฟื้น กระบวนการนี้ใช้เลือดของผู้เข้ารับการรักษาเอง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแพ้น้อยกว่า
ซึ่ง Growth Factors ใน PRP จะช่วยฟื้นฟูเซลล์รากผมที่อ่อนแอ กระตุ้นการทำงานของรากผม ลดการหลุดร่วง ผมหนาขึ้น และทำให้เส้นผมแข็งแรงอย่างเห็นผลได้ชัด ด้วยเหตุนี้ PRP ผมจึงเป็นทางเลือกที่น่าเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผมบาง ศีรษะเถิก หรือผู้ที่มีเส้นผมเล็กขาดหลุดร่วงง่ายตั้งแต่เกิดโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ คนที่กลัวเจ็บหมดห่วงเรื่องนี้ได้เลยค่ะ
การรักษาด้วย PRP ผม ทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปัญหาผมต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบการผ่าตัดหรือไม่มีเวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัด รวมถึง PRP ผม ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กลัวหรือมีความกังวลเรื่องอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากการผ่าตัดค่ะ
PRP ผมมีข้อจำกัดบางประการที่ไม่เหมาะสำหรับทุกคน เนื่องจากกระบวนการรักษานี้อาศัยการทำงานของเกล็ดเลือดและปัจจัยการเจริญเติบโตที่อยู่ในพลาสมาเพื่อกระตุ้นรากผมและเซลล์บริเวณหนังศีรษะ ดังนั้น หากมีภาวะสุขภาพหรือปัจจัยบางอย่างที่ขัดขวางกระบวนการนี้ ก็อาจทำให้การรักษาไม่ได้ผลหรือเกิดความเสี่ยงต่อผู้เข้ารับการรักษาได้ค่ะ
ทางเลือกในการรักษา BPA (Blood Platelet Activation) | นัดปรึกษา / BOOK CONSULT |
ก่อนที่จะตัดสินใจฉีด PRP ผมเพื่อแก้ปัญหาผมบางหรือผมร่วง มาดูข้อดีและข้อจำกัดของการรักษานี้ เพื่อประเมินความเหมาะสมและเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้องค่ะ
การฉีด PRP ผมเป็นวิธีรักษาที่มีผลการศึกษาจากสหรัฐอเมริการับรองว่าสามารถทำให้เส้นผม หนาขึ้นได้ ไม่มีการใช้สารเคมีอื่น ๆ ในการรักษา จึงลดโอกาสการแพ้หรืออาการแทรกซ้อน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดค่ะ
ต้องบอกก่อนว่า PRP ผมไม่ใช่การปลูกผมถาวร และจะได้ผลดีเฉพาะผู้ที่ยังมีเซลล์รากผมเหลืออยู่เท่านั้นค่ะ รวมถึงต้องเข้ารับการฉีดหลายครั้งในช่วงแรก ขึ้นอยู่กับการประเมินโดยแพทย์ เช่น ทุก 2-4 สัปดาห์ติดต่อกัน 6-12 ครั้ง จากนั้นจึงฉีดบำรุงรักษาทุก 3-6 เดือนค่ะ
แม้ PRP ผมจะมีจุดเด่นที่ใช้เกล็ดเลือดที่มาจากตัวเราเอง ช่วยลดความเสี่ยงของการแพ้ และไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ ปะปน แต่การทำหัตถการใด ๆ ก็ตามย่อมมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ ซึ่งผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยส่วนใหญ่อาจจะเป็นอาการชั่วคราว เช่น เจ็บหรือบวมบริเวณที่ฉีด บางรายอาจมีอาการ ช้ำหรือชาเล็กน้อย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองภายในไม่กี่วันค่ะ
ส่วนผลข้างเคียง PRP ผมที่พบได้น้อยแต่ควรระวัง ได้แก่ การติดเชื้อ ซึ่งอาจเกิดขึ้นหากดูแลแผลไม่ดีหลังทำ เช่น ไปว่ายน้ำ ทะเลหรือน้ำตกอาจสัมผัสกับสิ่งสกปรกได้ค่ะ นอกจากนี้ ในบางกรณีอาจพบ อาการแพ้ เช่น คันหรือมีผื่นขึ้น แม้จะพบได้น้อยมาก แต่หากมีอาการดังกล่าว ควรแจ้งแพทย์เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
หากการวินิจฉัยสภาพเส้นผมและหนังศีรษะอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะแนะนำให้รับการรักษา PRP ผมเพื่อแก้ไขปัญหาผมร่วง ดังต่อไปนี้ค่ะ
PRP ผมเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องผ่าตัด เลยไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน มาดูกันว่าขั้นตอนการรักษา PRP ผมเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ
ทางเลือกในการรักษา BPA (Blood Platelet Activation) | นัดปรึกษา / BOOK CONSULT |
การดูแลตนเองหลังทำ PRP ผมอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษาออกมาดีและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
อย่าลืมที่จะสังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงมาก มีไข้ หรืออาการแพ้ต่าง ๆ ด้วยนะคะ หากพบให้รีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
PRP ผมจำเป็นต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้ทำ 6-12 ครั้ง ในช่วงแรก โดยเว้นระยะห่างระหว่างการทำแต่ละครั้งประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัวและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
หลังจากทำครบรอบแรกแล้ว อาจต้องทำ PRP ผมซ้ำเพื่อบำรุงรักษาผลลัพธ์ โดยสามารถทำซ้ำได้ทุก 3-6 เดือน หรือ 1-2 ครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละบุคคล
สำหรับใครเคยทำ แล้วรู้สึกเห็นผลลัพธ์ผมดีขึ้นแต่ไม่สะดวกเข้ามาทำบ่อย และไม่อยากเจาะเลือดบ่อย ๆ ทาง Dr.Orn Clinic : Medical Hair มีแนวทางที่พัฒนาจาก Standard PRP เป็นวิธีที่เรียกว่า BPA (Blood Platelet Activation)
การเลือกสถานพยาบาล หรือคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์มีที่มีความรู้และประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้การรักษาเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องแล้ว ยังลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มความมั่นใจในการรักษาให้กับผู้เข้ารับการรักษาอีกด้วย
คลินิกปลูกผม Dr.Orn Clinic : Medical Hair มีความชำนาญด้าน PRP ผมโดยเฉพาะ ด้วยประสบการณ์การดูแลเส้นผมตั้งแต่ปี 2011 กว่า 60,000 เคส จากทีมแพทย์พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะกับปัญหาของแต่ละบุคคล
PRP ผม หลังจากทำแล้วช่วงแรกจะรู้สึกได้ว่าผมร่วงน้อยลง สภาพหนังศีรษะดีขึ้น และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนหลังทำประมาณ 3-6 เดือนหรือหลังการฉีดครบ 3-5 ครั้งค่ะ
อย่างที่ทราบว่าวิธีการรักษา PRP ผมไม่ใช่วิธีการปลูกผมถาวร ผลลัพธ์ของ PRP ผมสามารถอยู่ได้นาน 3-6 เดือน แต่เรื่องระยะเวลานานนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพเส้นผมของแต่ละบุคคลค่ะ ดังนั้น หลังทำจึงแนะนำการบำรุงด้วยการใช้วิตามินแบบบทาและแบบรับประทาน หรือทำทรีตเมนต์เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้ชัดเจนขึ้น
ใช้เลือดประมาณ 10-20 cc ต่อครั้ง เพื่อสกัดเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP สำหรับการฉีดบนหนังศีรษะค่ะ
PRP ผมเป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางจากสาเหตุต่าง ๆ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กลัวเจ็บ ไม่อยากผ่าตัดปลูกผม ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน PRP ผมจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์และได้ผลลัพธ์ที่เห็นถึงความแตกต่างของผมที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อทำครบจำนวนตามที่แพทย์แนะนำค่ะ
หากใครใดมีข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาผม อยากจะเข้ารับคำปรึกษาและข้อแนะนำสำหรับวิธีการรักษาแบบ PRP ทาง Dr.Orn Clinic : Medical Hairมีทีมแพทย์ที่พร้อมให้คำแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน ด้วยประสบการณ์ในการดูแลฟื้นฟูเส้นผม และเรามีเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยและได้มาตรฐานทางการแพทย์ พร้อมมอบการรักษาที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าค่ะ
ทางเลือกในการรักษา BPA (Blood Platelet Activation) | นัดปรึกษา / BOOK CONSULT |
สนใจติดต่อสอบถาม