0

PRP ผม การฉีดเกล็ดเลือด ช่วยลดปัญหาผมร่วง ฟื้นฟูเส้นผม


2025-03-25 19:06:48
#รีวิว

ปัญหาผมร่วง ผมบาง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง การดูแลเส้นผมที่ไม่เหมาะสม หรือแม้แต่กรรมพันธุ์ และหนึ่งในวิธีการรักษาที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาผมร่วงให้กลับมามีผมหนา ดกดำอีกครั้งคือ PRP ผม (Platelet-Rich Plasma) หรือการฉีดพลาสมาที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม 

 

แต่หลายคนยังคงสงสัยว่า PRP จริง ๆ แล้วได้ผลจริงไหม? PRP ทำบ่อยแค่ไหน? แล้วมีผลข้างเคียงหรือไม่? Dr.Orn Clinic : Medical Hair เราได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว ไปทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ


 

PRP ผม คืออะไร? เกล็ดเลือดเข้มข้น รักษาผมร่วง

 

PRP (Platelet Rich Plasma) คือ พลาสมาที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้นสูงกว่าปกติ ซึ่งเกล็ดเลือดเหล่านี้มีสารที่เรียกว่า Growth Factors ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเกิดของรากผม เมื่อนำไปฉีดบนหนังศีรษะแล้วจะส่งเสริมการงอกใหม่ของเส้นผมและทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นค่ะ

 

กระบวนการ PRP ผม เริ่มต้นจากการเจาะเลือดของคนไข้บริเวณข้อพับแขนประมาณ 10-20 cc จากนั้นนำเลือดนั้นไปปั่นในเครื่องหมุนเหวี่ยง (Centrifuge) ขั้นตอนนี้จะแยกเลือดออกเป็นชั้น ๆ โดยเราจะนำส่วนที่เป็นพลาสมา มาฉีดกลับเข้าไปบนหนังศีรษะหลังทำจึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้น และไม่ทิ้งรอยแผล


หัตถการ BPA คืออะไร

 

การทำ BPA ผม (Blood Platelet Activation) เป็นการใช้เลือดของผู้เข้ารับบริการมาผ่านกระบวนการคัดแยกเกล็ดเลือดเข้มข้นที่มีคุณสมบัติซ่อมแซมเซลล์ เพื่อนำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะที่มีปัญหาเพื่อบำรุงรากผม ลดผมร่วง ลดการอักเสบบริเวณหนังศีรษะ มีความแตกต่างจาก PRP ปกติตรงเครื่องที่ใช้ในการแยกชั้นเลือด จำนวนรอบปั่นเลือด การเก็บ และวิธีการฉีดลงหนังศีรษะ จะได้ปริมาณเกล็ดเลือดที่เข้มข้นสูง ทำให้ไม่จำเป็นต้องมาทำบ่อย สำหรับความถี่ที่แนะนำคือควรทำ BPA ทุก 1-3 เดือน ติดต่อกัน 3-5 ครั้ง ร่วมกับใช้วิตามินบำรุงผมแบบทาและแบบรับประทาน เพื่อช่วยเสริมผลลัพธ์หลังทำ


ทางเลือกในการรักษา BPA (Blood Platelet Activation)
นัดปรึกษา / BOOK CONSULT

 

PRP ผม ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง


PRP-แก้ผมร่วง

 

PRP ผมเป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพื่อแก้ปัญหาผมร่วงและผมบาง ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างจากวิธีการอื่น ๆ ซึ่งการฉีด PRP ผมไม่จำเป็นต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแผลเป็นหรือการพักฟื้น กระบวนการนี้ใช้เลือดของผู้เข้ารับการรักษาเอง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแพ้น้อยกว่า

ซึ่ง Growth Factors ใน PRP จะช่วยฟื้นฟูเซลล์รากผมที่อ่อนแอ กระตุ้นการทำงานของรากผม  ลดการหลุดร่วง ผมหนาขึ้น และทำให้เส้นผมแข็งแรงอย่างเห็นผลได้ชัด ด้วยเหตุนี้ PRP ผมจึงเป็นทางเลือกที่น่าเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผมบาง ศีรษะเถิก หรือผู้ที่มีเส้นผมเล็กขาดหลุดร่วงง่ายตั้งแต่เกิดโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ คนที่กลัวเจ็บหมดห่วงเรื่องนี้ได้เลยค่ะ

 

ใครที่เหมาะกับ PRP ผม 

 

การรักษาด้วย PRP ผม ทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับปัญหาผมต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบการผ่าตัดหรือไม่มีเวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัด รวมถึง PRP ผม ยังเหมาะสำหรับผู้ที่กลัวหรือมีความกังวลเรื่องอาการแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากการผ่าตัดค่ะ 

 

  • ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมร่วงเป็นหย่อม ผมบางมาจากสาเหตุต่าง ๆ 
  • ผู้ที่กระหม่อมบาง หรือหัวล้านกรรมพันธุ์ (Androgenetic Alopecia)
  • ผู้ที่ไม่อยากใช้วิธีผ่าตัดเพราะกลัวเจ็บ หรือกลัวอาการแทรกซ้อน
  • ผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาและไม่อยากพักฟื้นนาน
  • ผู้ที่กังวลเรื่องแผลเป็นหลังผ่าตัด ไม่อยากมีรอยแผลเป็น
  • ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผม หรือยารักษาผมร่วงแล้วยังไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
  • ผู้ที่ไม่สามารถใช้การรักษาวิธีอื่น ๆ ได้

 

ใครที่ไม่เหมาะกับ PRP ผม

 

PRP ผมมีข้อจำกัดบางประการที่ไม่เหมาะสำหรับทุกคน เนื่องจากกระบวนการรักษานี้อาศัยการทำงานของเกล็ดเลือดและปัจจัยการเจริญเติบโตที่อยู่ในพลาสมาเพื่อกระตุ้นรากผมและเซลล์บริเวณหนังศีรษะ ดังนั้น หากมีภาวะสุขภาพหรือปัจจัยบางอย่างที่ขัดขวางกระบวนการนี้ ก็อาจทำให้การรักษาไม่ได้ผลหรือเกิดความเสี่ยงต่อผู้เข้ารับการรักษาได้ค่ะ

 

  • ผู้ที่หัวล้าน จุดที่รากผมไม่มีแล้ว รูขุมขนปิด PRP อาจไม่ใช่แนวทางที่ตอบโจทย์
  • ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์
  • ผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หรือมีความผิดปกติของเกล็ดเลือด
  • ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กำลังรับเคมีบำบัด หรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือด
  • ผู้ที่ได้รับ Steroid แบบรับประทานภายใน 2 สัปดาห์ก่อนการรักษา
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อบริเวณหนังศีรษะที่จะทำการรักษา
  • ผู้ที่ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด (ควรหยุดยาก่อน 48 ชั่วโมงหรือปรึกษาแพทย์)

ทางเลือกในการรักษา BPA (Blood Platelet Activation)
นัดปรึกษา / BOOK CONSULT

 

ข้อดี-ข้อเสียของ PRP ผม


PRP-ปลูกผม

 

ก่อนที่จะตัดสินใจฉีด PRP ผมเพื่อแก้ปัญหาผมบางหรือผมร่วง มาดูข้อดีและข้อจำกัดของการรักษานี้ เพื่อประเมินความเหมาะสมและเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้องค่ะ

 

ข้อดีของ PRP ผม

 

การฉีด PRP ผมเป็นวิธีรักษาที่มีผลการศึกษาจากสหรัฐอเมริการับรองว่าสามารถทำให้เส้นผม หนาขึ้นได้ ไม่มีการใช้สารเคมีอื่น ๆ ในการรักษา จึงลดโอกาสการแพ้หรืออาการแทรกซ้อน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดค่ะ

 

ข้อจำกัดของ PRP ผม

 

ต้องบอกก่อนว่า PRP ผมไม่ใช่การปลูกผมถาวร และจะได้ผลดีเฉพาะผู้ที่ยังมีเซลล์รากผมเหลืออยู่เท่านั้นค่ะ รวมถึงต้องเข้ารับการฉีดหลายครั้งในช่วงแรก ขึ้นอยู่กับการประเมินโดยแพทย์ เช่น ทุก 2-4 สัปดาห์ติดต่อกัน 6-12 ครั้ง จากนั้นจึงฉีดบำรุงรักษาทุก 3-6 เดือนค่ะ 

 

PRP ผม มีผลข้างเคียงหรือไม่

 

แม้ PRP ผมจะมีจุดเด่นที่ใช้เกล็ดเลือดที่มาจากตัวเราเอง ช่วยลดความเสี่ยงของการแพ้ และไม่มีการใช้สารเคมีใด ๆ ปะปน แต่การทำหัตถการใด ๆ ก็ตามย่อมมีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ ซึ่งผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยส่วนใหญ่อาจจะเป็นอาการชั่วคราว เช่น เจ็บหรือบวมบริเวณที่ฉีด บางรายอาจมีอาการ ช้ำหรือชาเล็กน้อย ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปเองภายในไม่กี่วันค่ะ 

 

ส่วนผลข้างเคียง PRP ผมที่พบได้น้อยแต่ควรระวัง ได้แก่ การติดเชื้อ ซึ่งอาจเกิดขึ้นหากดูแลแผลไม่ดีหลังทำ เช่น ไปว่ายน้ำ ทะเลหรือน้ำตกอาจสัมผัสกับสิ่งสกปรกได้ค่ะ นอกจากนี้ ในบางกรณีอาจพบ อาการแพ้ เช่น คันหรือมีผื่นขึ้น แม้จะพบได้น้อยมาก แต่หากมีอาการดังกล่าว ควรแจ้งแพทย์เพื่อรับการดูแลที่เหมาะสมต่อไปค่ะ

 

การเตรียมตัวก่อนทำ PRP ผม

 

หากการวินิจฉัยสภาพเส้นผมและหนังศีรษะอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะแนะนำให้รับการรักษา PRP ผมเพื่อแก้ไขปัญหาผมร่วง ดังต่อไปนี้ค่ะ

 

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 1-2 วันก่อนทำ เพื่อให้เลือดไหลเวียนดีและง่ายต่อการสกัดเกล็ดเลือด
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมงก่อนทำ เพราะอาจทำให้เลือดจางหรือไหลเวียนไม่ดี
  • งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อการไหลเวียนเลือด
  • แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ โดยเฉพาะยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด เนื่องจากอาจต้องหยุดยาก่อนทำ 48 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหนักหรืออาหารมันก่อนทำ อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันอาการวิงเวียนหรือคลื่นไส้
  • ทำความสะอาดหนังศีรษะ ล้างผมให้สะอาดก่อนมาทำ เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการรักษา

 

ขั้นตอน PRP ผม


ใครเคยทำ PRP ผมบาง

 

PRP ผมเป็นกระบวนการที่ไม่ต้องผ่าตัด เลยไม่ได้มีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อน มาดูกันว่าขั้นตอนการรักษา PRP ผมเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ

 

  1. เริ่มจากการเจาะเลือดบริเวณข้อพับแขนของผู้เข้ารับการรักษาประมาณ 10 - 20 cc 
  2. แยกเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) เลือดที่เก็บมาจะถูกนำไปปั่นในเครื่องปั่นเหวี่ยง (Centrifuge) เพื่อแยกพลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้นออกจากส่วนประกอบอื่น ๆ ของเลือด
  3. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณหนังศีรษะที่ต้องการฉีด PRP เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
  4. จากนั้นทำการฉีด PRP เข้าบริเวณหนังศีรษะ แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กฉีด PRP เข้าไปบริเวณรากผมที่ต้องการกระตุ้น
  5. หลังฉีด แพทย์อาจนวดเบา ๆ บริเวณที่ฉีดเพื่อช่วยให้ PRP ผมกระจายตัวได้ดีขึ้น
  6. แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลหนังศีรษะหลังทำ เช่น หลีกเลี่ยงการสระผมหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 24 ชั่วโมง


ทางเลือกในการรักษา BPA (Blood Platelet Activation)
นัดปรึกษา / BOOK CONSULT


การดูแลตัวเองหลังทำ PRP ผม

 

การดูแลตนเองหลังทำ PRP ผมอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษาออกมาดีและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ

 

  • หลีกเลี่ยงการสระผมหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังทำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น สเปรย์หรือเจลจัดแต่งทรงผม เป็นเวลา 1-2 วัน
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น ออกกำลังกายหนัก ๆ หรืออยู่ในที่ร้อน เป็นเวลา 1-2 วัน
  • งดการว่ายน้ำหรือแช่น้ำเป็นเวลา 1-2 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรืออาหารที่อุดมด้วยโปรตีนและวิตามิน เพื่อช่วยเสริมสร้างเซลล์รากผม
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ เป็นเวลา 1-2 วัน เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น

 

อย่าลืมที่จะสังเกตอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงมาก มีไข้ หรืออาการแพ้ต่าง ๆ ด้วยนะคะ หากพบให้รีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

 

PRP ผมต้องทํากี่ครั้ง?

 

PRP ผมจำเป็นต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี โดยทั่วไป แพทย์จะแนะนำให้ทำ 6-12 ครั้ง ในช่วงแรก โดยเว้นระยะห่างระหว่างการทำแต่ละครั้งประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัวและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

 

หลังจากทำครบรอบแรกแล้ว อาจต้องทำ PRP ผมซ้ำเพื่อบำรุงรักษาผลลัพธ์ โดยสามารถทำซ้ำได้ทุก 3-6 เดือน หรือ 1-2 ครั้งต่อปี ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของแต่ละบุคคล

 

สำหรับใครเคยทำ แล้วรู้สึกเห็นผลลัพธ์ผมดีขึ้นแต่ไม่สะดวกเข้ามาทำบ่อย และไม่อยากเจาะเลือดบ่อย ๆ ทาง Dr.Orn Clinic : Medical Hair มีแนวทางที่พัฒนาจาก Standard PRP เป็นวิธีที่เรียกว่า BPA (Blood Platelet Activation) 

 

ทำ PRP ผมที่ไหนดี? เลือกคลินิกที่ใช่ มั่นใจได้ในผลลัพธ์

 

การเลือกสถานพยาบาล หรือคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์มีที่มีความรู้และประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนอกจากจะช่วยให้การรักษาเป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องแล้ว ยังลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและเพิ่มความมั่นใจในการรักษาให้กับผู้เข้ารับการรักษาอีกด้วย

 

  • ควรเลือกคลินิกที่ได้รับการรับรองและมีมาตรฐานตามกฎหมายทางการแพทย์
  • แพทย์ควรมีประสบการณ์และเข้าใจปัญหาผมร่วงอย่างถูกต้อง
  • คลินิกควรมีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
  • รีวิวหรือผลลัพธ์จากผู้ที่เคยทำการรักษาจริง 
  • คลินิกที่ดีควรให้คำแนะนำอย่างละเอียดทั้งก่อนและหลังการทำ

 

คลินิกปลูกผม Dr.Orn Clinic : Medical Hair มีความชำนาญด้าน PRP ผมโดยเฉพาะ ด้วยประสบการณ์การดูแลเส้นผมตั้งแต่ปี 2011 กว่า 60,000 เคส จากทีมแพทย์พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะกับปัญหาของแต่ละบุคคล

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

 

PRP ผม ได้ผลเมื่อไหร่

 

PRP ผม หลังจากทำแล้วช่วงแรกจะรู้สึกได้ว่าผมร่วงน้อยลง สภาพหนังศีรษะดีขึ้น และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนหลังทำประมาณ 3-6 เดือนหรือหลังการฉีดครบ 3-5 ครั้งค่ะ 

 

PRP ผมอยู่ได้กี่เดือน

 

อย่างที่ทราบว่าวิธีการรักษา PRP ผมไม่ใช่วิธีการปลูกผมถาวร ผลลัพธ์ของ PRP ผมสามารถอยู่ได้นาน 3-6 เดือน แต่เรื่องระยะเวลานานนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพเส้นผมของแต่ละบุคคลค่ะ ดังนั้น หลังทำจึงแนะนำการบำรุงด้วยการใช้วิตามินแบบบทาและแบบรับประทาน หรือทำทรีตเมนต์เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้ชัดเจนขึ้น

 

PRP ผมต้องใช้เลือดกี่ cc

 

ใช้เลือดประมาณ 10-20 cc ต่อครั้ง เพื่อสกัดเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP สำหรับการฉีดบนหนังศีรษะค่ะ

 

PRP ผม กระตุ้นการเกิดเส้นผมใหม่ ด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้น

 

PRP ผมเป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางจากสาเหตุต่าง ๆ และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กลัวเจ็บ ไม่อยากผ่าตัดปลูกผม ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน PRP ผมจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์และได้ผลลัพธ์ที่เห็นถึงความแตกต่างของผมที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อทำครบจำนวนตามที่แพทย์แนะนำค่ะ

 

หากใครใดมีข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาผม อยากจะเข้ารับคำปรึกษาและข้อแนะนำสำหรับวิธีการรักษาแบบ PRP ทาง Dr.Orn Clinic : Medical Hairมีทีมแพทย์ที่พร้อมให้คำแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน ด้วยประสบการณ์ในการดูแลฟื้นฟูเส้นผม และเรามีเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยและได้มาตรฐานทางการแพทย์ พร้อมมอบการรักษาที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าค่ะ

 

ทางเลือกในการรักษา BPA (Blood Platelet Activation)
นัดปรึกษา / BOOK CONSULT


สนใจติดต่อสอบถาม

 

  • Call : 02-108-8500
  • LINE O/A : Dr.Orn Clinic
  • Messenger : Dr.Orn Clinic : Medical Hair





Dr.Orn Clinic : Medical Hair ดูแลปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ  ประสบการณ์กว่า 12 ปี ดารา นักแสดง นักธุรกิจ จำนวนมาก ต่างยืนยันในผลลัพธ์และมั่นใจ

ADDRESS


นัดปรึกษากับแพทย์ได้ทั้ง 5 สาขา

สาขาหลัก พหลโยธิน 22 ( BTS พหลโยธิน 24 )
สาขา The Mercury Ville@Chidlom
สาขา The Crystal SB Ratchapruek
สาขา Future Park Rangsit
สาขา The Crystal Ekamai-Ramindra


SERVICE


ปลูกผม

ปลูกผม FUE

ปลูกผม FUT

ปลูกคิ้ว

ปลูกหนวด


FOLLOW US


   





Copyright   ®  2023