ผมร่วงเป็นหย่อม เกิดจากอะไร? เช็กวิธีรักษาผมร่วงเป็นหย่อมที่ถูกต้อง ได้ผลจริง

“ผมร่วงเป็นหย่อม” อาจเป็นปัญหาที่หลายคนไม่ทันสังเกตในตอนแรก จนกระทั่งเห็นผมบางลงเป็นจุด ๆ ผมแหว่งข้างหน้า หรือผมหายเป็นวงอย่างชัดเจน ปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดูแลศีรษะและเส้นผมผิดวิธีเท่านั้น แต่ยังอาจเกี่ยวข้องกับภาวะภูมิคุ้มกันที่ทำร้ายรากผมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทำให้เกิดภาวะ Alopecia Areata หรือโรคผมร่วงเป็นหย่อมนั่นเองค่ะ

หากใครที่กำลังเผชิญกับภาวะผมร่วงเยอะมาก และสงสัยว่าผมหลุดเป็นกระจุกเกิดจากอะไร บทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่า Alopecia คืออะไร และผมร่วงเป็นหย่อม วิธีรักษามีอะไรบ้าง

ผมร่วงเป็นหย่อม เกิดจากอะไร

ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เป็นภาวะที่พบได้ประมาณ 0.1-0.2% ของประชากร ซึ่งเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ร่างกายเข้าใจผิดว่าเซลล์รากผมคือสิ่งแปลกปลอมในร่างกายและทำการโจมตีรากผมค่ะ ทำให้เส้นผมร่วงเป็นหย่อม ๆ โดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งโรคผมหลุดเป็นกระจุกเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

• ระบบภูมิคุ้มกันทำร้ายรากผม เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันภายในตัวเราเองที่เข้าใจว่ารากผมเป็นสิ่งแปลกปลอมค่ะ จึงสั่งให้ภูมิคุ้มกันเข้าโจมตีรากผมจนอ่อนแอจนเกิดผมร่วงเป็นหย่อม ผมไม่ขึ้นบางจุด หรือบางรายอาจผมร่วงเป็นวงกลม โดยจะเกิดขึ้นได้แบบเฉียบพลัน และอาจลุกลามเป็นบริเวณกว้าง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง
• พันธุกรรม หากคนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็น Alopecia Areata โอกาสที่เราจะเสี่ยงเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมก็มักสูงกว่าคนทั่วไป
• ความเครียดสะสม แม้จะไม่ใช่สาเหตุโดยตรง แต่ก็สามารถเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดผมร่วงเป็นหย่อม ได้ค่ะ เมื่อร่างกายเกิดภาวะเครียดสูง ฮอร์โมนบางชนิด เช่น คอร์ติซอล (Cortisol) จะเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาเครียดผมร่วงเป็นวงเป็นหย่อมได้
• การติดเชื้อหรือโรคทางผิวหนัง โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับหนังศีรษะ เช่น เชื้อราหนังศีรษะ โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคเซ็บเดิร์ม อาจทำให้เส้นผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ได้ เนื่องจากการอักเสบของหนังศีรษะส่งผลต่อรากผมโดยตรง
• ฮอร์โมน เช่น ภาวะไทรอยด์ผิดปกติ (Hypothyroidism หรือ Hyperthyroidism) หรือการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก, วิตามินดี และไบโอติน ก็อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ผมร่วงเป็นหย่อมได้

ผมร่วงเป็นหย่อม มักพบในคนกลุ่มใด

ผมร่วงเป็นหย่อม เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยค่ะ แต่จากการศึกษาพบว่ามีกลุ่มคนบางประเภทที่มีแนวโน้มเป็นโรคผมร่วงเป็นหย่อมมากกว่าคนทั่วไป ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม ระบบภูมิคุ้มกัน หรือปัจจัยภายนอกที่มากระตุ้นให้เกิดอาการผมร่วงเป็นหย่อมนั่นเองค่ะ เรามาดูกันว่ากลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดผมร่วงเป็นหย่อมนั้นมีกลุ่มไหนบ้าง

• คนที่อยู่ในครอบครัวที่มีประวัติเป็น Alopecia Areata โอกาสที่จะเป็นโรคนี้ก็สูงขึ้น เพราะปัจจัยทางพันธุกรรมจะกระตุ้นให้เกิดผมร่วงเป็นหย่อม เช่น ครอบครัวที่หัวล้าน ลูกหลานก็มักจะมีโอกาสหัวล้านได้เช่นกัน
• คนที่มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ไทรอยด์, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคเบาหวานประเภท 1 หรือโรคลูปัส (SLE) ที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโรคแพ้ภูมิตัวเอง ซึ่งผมร่วงเยอะ ๆ ก็มีสาเหตุมาจากโรคนี้ด้วยเช่นกัน
• ผู้ที่มีความเครียดสูง หรือมีปัญหาทางสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล สามารถกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนความเครียดออกมาสูง ซึ่งส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติและกระตุ้นให้เครียด ทำให้ผมร่วงเป็นวงกว้างขึ้น
• เด็กและวัยรุ่น แม้ว่าผมร่วงเป็นหย่อมจะเกิดขึ้นได้กับทุกวัย แต่ส่วนใหญ่มักเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุยังเล็ก โดยเด็กและวัยรุ่นที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแออาจมีแนวโน้มเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ใหญ่ค่ะ
• ผู้ที่มีภาวะขาดสารอาหารบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก, วิตามินดี, ไบโอติน หรือโปรตีน อาจทำให้เส้นผมอ่อนแอ มีโอกาสผมร่วงเป็นหย่อม ๆ ได้ง่ายขึ้น

ผมร่วงเป็นหย่อม มีกี่แบบ

ผมร่วงเป็นหย่อมไม่ได้มีเพียงรูปแบบเดียว แต่สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทค่ะ ซึ่งแต่ละแบบจะมีลักษณะของการหลุดร่วงและความรุนแรงที่แตกต่างกัน หากรู้จักประเภทของอาการผมร่วงเป็นหย่อม ก็จะช่วยให้สามารถรับมือและเลือกวิธีดูแลได้อย่างเหมาะสมค่ะ

• ผมร่วงเป็นหย่อมแบบทั่วไป (Alopecia Areata หรือ Patchy Hair Loss) เป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด ลักษณะคือผมร่วงเป็นหย่อม ๆ มีได้ทั้งร่วงเป็นพื้นที่ขนาดเล็กหรือใหญ่ ผมหายเป็นวง กระจายเป็นจุด ๆ บนหนังศีรษะ โดยเส้นผมบริเวณรอบ ๆ ยังดูปกติ อาการอาจเกิดขึ้นชั่วคราวและงอกใหม่ได้ หรือในบางรายอาจผมร่วงเป็นกระจุกลุกลามมากขึ้นเช่นกัน
• ผมร่วงเป็นหย่อมทั่วศีรษะ (Alopecia Totalis) ลักษณะของอาการจะรุนแรงกว่ารูปแบบแรก คือ เส้นผมแหว่งเป็นวงกว้าง และอาจลุกลามจนผมทั้งศีรษะหายไปทั้งหมด มักเกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้รากผมอ่อนแอมากขึ้น
• ผมร่วงเป็นหย่อมทั่วร่างกาย (Alopecia Universalis) เป็นรูปแบบที่รุนแรงที่สุด นอกจากผมบนศีรษะจะร่วงหมดแล้ว ขนบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น คิ้ว ขนตา หนวดเครา หรือขนตามแขนขาก็อาจหลุดร่วงไปด้วย ซึ่งเป็นผลจากภูมิคุ้มกันที่ทำลายรูขุมขนทั่วร่างกาย

การวินิจฉัยโรคผมร่วงเป็นหย่อม ทำได้อย่างไรบ้าง

หากมีอาการผมร่วงเป็นหย่อม หรือพบว่ามีผมร่วงเป็นกระจุกผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โดยเบื้องต้นแล้วการวินิจฉัยโรคผมร่วงเป็นหย่อมนั้นทำได้หลายวิธี เรามาดูรายละเอียดต่าง ๆ กันค่ะ

• การซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้น โดยแพทย์จะสอบถามอาการ ระยะเวลาที่เริ่มมีอาการ และประวัติสุขภาพของผู้ป่วย รวมถึงโรคประจำตัว ประวัติคนในครอบครัวที่เคยเป็น Alopecia Areata หรือโรคภูมิคุ้มกันอื่น ๆ
• การตรวจเส้นผม (Pull Test) แพทย์จะลองดึงเส้นผมเบา ๆ เพื่อดูว่าผมร่วงง่ายผิดปกติหรือไม่
• การตรวจหนังศีรษะ (Dermoscopy) แพทย์ใช้กล้องขยายตรวจหนังศีรษะเพื่อดูสภาพรากผม รูขุมขน และลักษณะของเส้นผมที่ร่วง
• การตรวจชิ้นเนื้อหนังศีรษะ (Scalp Biopsy) มักวินิจฉัยในกรณีที่สงสัยว่าอาจเกิดจากโรคทางผิวหนังอื่น ๆ เช่น เชื้อรา หรือโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งแพทย์อาจตัดตัวอย่างผิวหนังศีรษะขนาดเล็กไปตรวจภายใต้กล้องจุลทรรศน์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
• การตรวจเลือด (Blood Test) หากแพทย์ตั้งข้อสงสัยว่า ผมร่วงเป็นหย่อมอาจเกี่ยวข้องกับโรคภูมิคุ้มกัน เช่น โรคไทรอยด์ โรคเบาหวาน ภาวะขาดธาตุเหล็ก หรือโรคแพ้ภูมิตัวเองแล้วผมร่วง อาจมีการตรวจเลือดเพิ่มเติมเพื่อดูความผิดปกติของร่างกาย

7 วิธีรักษาผมร่วงเป็นหย่อม เคล็ดลับการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ 

อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วว่า ผมร่วงเป็นหย่อมสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แต่ทั้งนี้ก็มีวิธีดูแลรักษาหลายแบบที่ช่วยกระตุ้นให้เส้นผมกลับมาขึ้นใหม่ได้ ลองมาดู 7 วิธีแก้ผมร่วงที่แพทย์แนะนำ พร้อมเคล็ดลับดูแลเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรงกันค่ะ

1. ใช้แชมพูลดผมร่วง

การเลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับหนังศีรษะและเส้นผมนั้นสำคัญมาก ไม่ว่ากำลังจะเผชิญกับปัญหาผมร่วงเป็นหย่อมอยู่หรือไม่ก็ตาม แนะนำให้เลือกใช้แชมพูที่ปราศจากซัลเฟต (SLS-Free) และแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองของหนังศีรษะ และเสริมสร้างสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

แชมพูลดผมร่วงนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายยี่ห้อ แต่หากยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกแชมพูรักษาผมร่วงเป็นหย่อมอย่างไรดี เราแนะนำ Dr.Orn Cosmez Anti Hair Loss Shampoo แชมพูลดผมร่วงที่ช่วยทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะให้ชุ่มชื้น พร้อมทั้งช่วยบำรุงเส้นผมด้วยสารอาหารสำคัญกว่า 10 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น Trichovedah, Ganoderma Extract, Hyaluron essence, Phytoceramide และ Tricho-Nutri ปราศจากซัลเฟตและซิลิโคน อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

2. ใช้เซรั่มปลูกผมเป็นประจำ

การใช้เซรั่มปลูกผมเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ในปัจจุบันก็มีเซรั่มปลูกผมอยู่ด้วยกันหลายแบบ เราควรเลือกเซรั่มที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ลดการระคายเคืองอย่างเซรั่มปลูกผม Dr.Orn Cosmez Onagain Hair Tonic ที่ประกอบไปด้วย สารสกัดต้นอ่อนถั่วลันเตา (Anagain) และสารสกัดจากดอกโคลเวอร์แดง (Capixyl) ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นได้ หากใช้อย่างสม่ำเสมอ

3. กินวิตามินบำรุงผมเสริม

การรับประทานวิตามินบำรุงผม จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผมได้อีกทางหนึ่ง โดยเราควรมองหาวิตามินที่มีสารอาหารสำคัญต่อการบำรุงเส้นผม เช่น Biotin หรือ Vitamin B7 ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม, Zinc ช่วยลดการหลุดร่วงและช่วยให้เส้นผมแข็งแรง, ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางที่อาจทำให้ผมหลุดร่วงหรือผมแหว่ง เป็นต้น

การทานวิตามินบำรุงเส้นผมนั้นค่อนข้างได้ผลดี หากกินอย่างถูกต้องเหมาะสม และเลือกผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบำรุงเส้นผมที่มีประสิทธิภาพจริง สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าเลือกตัวไหนดี อาจมองหาวิตามินบำรุงเส้นผมจาก Dr.Orn Cosmez ที่ประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด เน้นบำรุงเส้นผม เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังศีรษะ สามารถทานเพื่อบำรุงเส้นผมได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยค่ะ

4. รักษาแบบทายา

การรักษาด้วยยาทาผมร่วงเป็นหย่อมสามารถใช้เพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม ลดการอักเสบของหนังศีรษะ อันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อม และช่วยชะลอการทำลายรากผมจากระบบภูมิคุ้มกัน โดยยาทาที่แพทย์นิยมใช้ ได้แก่

• ยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ช่วยลดการอักเสบและลดการทำงานของภูมิคุ้มกัน ที่อาจเข้าโจมตีรากผม ซึ่งจะทายาสเตียรอยด์บริเวณที่ผมร่วง วันละ 1-2 ครั้ง และควรใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ผิวบางลง เป็นผื่นแดง หรือเกิดอาการระคายเคืองได้
• ยาทาไมนอกซิดิล 5% (Topical minoxidil 5% solution) เป็นยาที่ได้ชื่อว่ายาปลูกผม มีบทบาทในการช่วยขยายหลอดเลือดบริเวณหนังศีรษะ ทำให้เลือดไปเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นให้เส้นผมเกิดใหม่มากขึ้น โดยจะต้องทาไมนอกซิดิล วันละ 2 ครั้งหลังสระผม ด้วยการหยดลงบนบริเวณที่มีผมร่วงแล้วใช้ปลายนิ้วเกลี่ยให้ทั่ว และควรใช้ต่อเนื่อง 3-6 เดือน จึงจะเริ่มเห็นผล แต่อย่างไรก็ตาม ไมนอกซิดิล 5% อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหนังศีรษะ และให้ผลเกี่ยวกับความดันโลหิต จึงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์และให้แพทย์เป็นผู้จ่ายยาให้เท่านั้น 
• แอนทราลิน (Anthralin) เป็นยาที่มีฤทธิ์ต้านอักเสบและกดภูมิคุ้มกัน สำหรับใช้รักษาโรคสะเก็ดเงินและเป็นยาทาผมร่วงเป็นหย่อมด้วย โดยช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันกลับมาทำงานเป็นปกติ และส่งเสริมให้รากผมสามารถงอกใหม่ได้ จะต้องทายาแอนทราลินบริเวณที่ผมร่วง ทิ้งไว้ประมาณ 20-60 นาที แล้วล้างออก ใช้เป็นประจำวันละครั้งหรือตามแพทย์สั่ง แต่อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองหรือมีสีคล้ำขึ้นชั่วคราว

5. รักษาด้วยการฉาย

การฉายแสงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกระตุ้นรากผมและลดการอักเสบ ยกตัวอย่างเช่น โปรแกรมฉายแสงสีแดง (Red Light Therapy) ที่มีความยาวคลื่น 640-660 nm. ซึ่งมีคุณสมบัติกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณใต้ชั้นผิวหนังศีรษะ ช่วยให้ผมมีความแข็งแรง ได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่มากขึ้น และช่วยซ่อมแซมเส้นผมส่วนที่มีความเสียหาย ให้กลับมาสุขภาพดีโดยไม่ต้องผ่านการผ่าตัด ทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับวิตามินและเซรั่มเพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นได้ด้วย

6. รักษาด้วยเกล็ดเลือด

การรักษาด้วยโปรแกรมบำรุงผมจากเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP เป็นเทคนิคที่นำเลือดจากตัวเราเองมาสกัดเอา Growth Factors แล้วฉีดกลับเข้าไปในหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์เส้นผม และซ่อมแซมเนื้อเยื่อหนังศีรษะที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งวิธีรักษาผมร่วงเป็นหย่อมนี้ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น และลดอาการผมหลุดร่วงได้ดี มีโอกาสแพ้น้อยถึงน้อยมาก เพราะเป็นการใช้เกล็ดเลือดของตัวเอง ไม่ใช่สารแปลกปลอม โดยมักแนะนำให้ทำต่อเนื่อง 3-6 ครั้งหรือตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนค่ะ

7. รักษาด้วยการปลูกผม

ในกรณีที่มีผมร่วงเป็นหย่อมเรื้อรังและไม่สามารถฟื้นฟูได้ด้วยวิธีอื่น ๆ การปลูกผม (Hair Transplant) อาจเป็นทางเลือกที่ควรมองหาค่ะ โดยแพทย์จะนำรากผมที่ยังแข็งแรงจากบริเวณท้ายทอยหรือด้านข้างของศีรษะ มาปลูกในจุดที่ผมแหว่งเพื่อให้เกิดการงอกใหม่ในบริเวณที่ปลูกผม ปัจจุบันมีเทคนิคปลูกผมหลายวิธี ทั้งการปลูกผมที่ออกแบบตามกรอบหน้าของเรา หรือจะเป็นการปลูกผมแบบคงความยาวเส้นผมเอาไว้ ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูดีมากขึ้น

รักษาผมร่วงเป็นหย่อมที่ไหนดี? เลือกให้ถูกที่ เพื่อผลลัพธ์ที่สร้างมั่นใจยิ่งขึ้น

การรักษาผมร่วงเป็นหย่อมควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะเป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและปัจจัยทางสุขภาพหลายอย่าง ซึ่งต้องอาศัยการวินิจฉัยและแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ดังนั้น การเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และมีแพทย์ที่มีประสบการณ์การรักษามาก่อนจึงเป็นสิ่งสำคัญค่ะ โดยรายละเอียดการเลือกเข้ารับบริการรักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อม มีดังนี้

• เลือกแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผมและหนังศีรษะ (Trichology) หรือแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ในการรักษาผมร่วงเป็นหย่อมมาก่อน
• เลือกเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เหมาะสม โดยสถานพยาบาลควรมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการวินิจฉัยและรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์
• มีรีวิวหรือผลลัพธ์จริงจากผู้ใช้บริการจริง ซึ่งจะต้องมีตัวอย่างการเข้ารับบริการที่หลากหลาย ไม่จำเจ และมีความน่าเชื่อถือ สามารถดูตัวอย่างการเปรียบเทียบก่อน-หลังการรักษาได้เพื่อประกอบการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่ง ไลฟ์สด หรือวิดีโอ

หากคุณกำลังมองหาคลินิกรักษาผมร่วงเป็นหย่อม หรือคลินิกปลูกผมที่ได้มาตรฐาน Dr.Orn Clinic : Medical Hair เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมเทคโนโลยีหลากหลาย ที่ทาง Dr.Orn Clinic : Medical Hair ออกแบบการรักษาให้เหมาะกับภาวะผมร่วงในแต่ละบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและตอบโจทย์

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

ผมร่วงเป็นหย่อม เป็นแล้วหายได้หรือไม่ ?

ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เป็นภาวะที่สามารถหายได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและการรักษาที่ได้รับ บางคนอาจเห็นผลภายในระยะเวลาสั้น ๆ แต่บางคนอาจต้องใช้เวลานาน หรืออาจเกิดการร่วงซ้ำอีกในอนาคตทำให้ผมไม่ขึ้นเป็นจุด ซึ่งการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องและการปรึกษาแพทย์สามารถช่วยให้การฟื้นฟูผมมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ

รักษาโรคผมร่วงเป็นหย่อมกี่วัน อาการถึงจะหาย ?

ระยะเวลาการรักษาผมร่วงเป็นหย่อม ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคลและวิธีการรักษาที่ใช้ว่าเหมาะสมกับสาเหตุหรือไม่ โดยปกติแล้วอาการจะเริ่มดีขึ้นภายใน 3-6 เดือนค่ะ

ผมร่วงเป็นหย่อม Alopecia Areata รักษาได้ไหม? เลือกอย่างไรดี?

ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) เป็นภาวะที่เกิดจากการทำงานผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้รากผมถูกทำลายและเกิดผมแหว่งเป็นวง แต่ปัจจุบันก็มีวิธีรักษาผมร่วงเป็นหย่อมอยู่หลากหลายแบบ เช่น การใช้ยาทา, การฉีดสเตียรอยด์, การทำ PRP ไปจนถึงวิธีปลูกผม อย่างไรก็ตาม ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการดูแลผมและหนังศีรษะให้รอบคอบ เพราะจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นค่ะ

Dr.Orn Clinic : Medical Hair เป็นคลินิกที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเส้นผมและหนังศีรษะ พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย เช่น บริการปลูกผมถาวรและ Triple H Solution Program สำหรับบำรุงรากผมให้แข็งแรง ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมและฟื้นฟูหนังศีรษะ ให้บริการดูแลรักษาผมร่วงเป็นหย่อมและปัญหาผมอื่น ๆ อย่างครอบคลุม หรือสำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะต้องเริ่มตรงไหนดี สามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพเส้นผมกันได้ที่ Dr.Orn Clinic : Medical Hair เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์และประเมินแนวทางการรักษาเบื้องต้นก่อนได้!

สนใจติดต่อสอบถาม

• Call : 02-108-8500
• LINE O/A : Dr.Orn Clinic
• Messenger : Dr.Orn Clinic : Medical Hair